Tuesday, October 10, 2017

5 วิธีสยบเจ้าเหมียวให้สงบก่อนเข้าพบสัตวแพทย์




         ในกรณีที่คุณป่วยหรือบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังสามารถซื้อยามารักษาอาการเองได้ แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่าง แมวเหมียว ไม่ว่ากรณีใด ๆ ต้องนำส่งสัตวแพทย์อย่างเดียวเลย เพราะหากใช้ยาสำหรับคนหรือรักษาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอาจทำให้อาการของพวกมันทรุดลงไปกว่าเดิม อีกทั้งฤทธิ์ยาบางตัวเป็นอันตรายต่อแมวมาก ๆ อย่างเช่น พาราเซตามอน แอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน ดังนั้นทางเดียวที่จะรักษาแมวของคุณได้คือนำตัวส่งสัตวแพทย์ แต่ทั้งนี้คุณอาจพบกับอาจการตื่นกลัวของแมว ซึ่งสามารถสยบพวกมันได้โดยวิธีเหล่านี้

1. ทำความคุ้นเคยกับสถานที่

          ถ้าแมวของคุณเกิดการตื่นกลัวและเครียดเมื่อพาไปพบสัตวแพทย์ คุณควรพกขนมหรือของเล่นของพวกมันติดตัวไปด้วย จากนั้นให้พวกมันทำความคุ้นเคย กับสถานที่เสียก่อนด้วยการพาสำรวจรอบ ๆ เพื่อทำความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมและกลิ่นภายในสถานที่ ในระหว่างนั้นให้พวกมันกินขนมหรือโยนของให้เล่นไปพลาง ๆ ก่อน ซึ่งวิธีนี้สามารถลดความเครียดได้ดีเชียวล่ะ

2. จับแมวให้อยู่หมัดด้วยตะกร้าแบบเปิด

          เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระจึงทำให้ไม่ชอบอยู่ในพื้นที่เล็กและแคบ อย่างเช่น ในตะกร้าที่คุณจับแมวตัวเองใส่ลงไป โดยเฉพาะตะกร้าที่มีฝาปิดเพราะทำให้แมวของคุณอึกอัดและขาดอากาศหายใจ ดังนั้นหากคุณอยากให้พวกมันอยู่เป็นที่ควรเลือกตะกร้าแบบที่ไม่มีฝาปิด หรือตะกร้าที่มีฝาปิดแบบแยกต่างหากดีกว่า เพื่อเปิดช่องอากาศ และทำให้พวกมันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

3. พกของประจำไปด้วย

          หากแมวของคุณมีของประจำตัวอยู่ อย่างเช่น เสื้อผ้า เบาะ หรือของที่มันชอบ ควรนำไปด้วยเพราะในสิ่งของเหล่านั้นมีกลิ่นของมันติดอยู่ การวางของเหล่านี้ไว้ใกล้ ๆ ตัวจะช่วยให้พวกมันรู้สึกสบายใจและลดความเครียดลงไปได้เยอะเลยทีเดียว

4. หาเพื่อนให้แมว

          เพราะคงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของแมวได้ดีไปกว่าพวกเดียวกันอีกแล้ว ดังนั้นหากคุณพบว่ามีคนนำแมวมารักษาเหมือนกันควรพาแมวของคุณไปรู้จักกับแมวตัวอื่น ๆ ด้วยจะช่วยให้แมวของคุณสบายใจขึ้น

5. ให้กำลังใจ

          ในระหว่างทางที่อยู่บนรถหรือในโรงพยาบาลควรให้กำลังใจแมวของคุณ โดยการลูกบหัว เกาคาง หรือสัมผัสที่ท้องของแมวเบา ๆ เพื่อให้พวกมันรู้สึกสบายตัว นอกจากนี้อาจให้กำลังใจด้วยขนมหรือของกินอร่อย ๆ ที่พวกมันชอบสักนิด ก่อนเข้ารักษา รับรองว่าคราวนี้พวกมันไม่ดื้อกับคุณและสัตวแพทย์อีกแล้วล่ะทั้งนี้ควรเลือกโรงพยาบาลหรือคลีนิคใกล้บ้าน เพื่อลดเวลาการนั่งรถให้น้อยที่สุด

No comments:

Post a Comment