Thursday, September 22, 2016

10 โรคร้ายเสี่ยงตายของหมาและแมว ที่เจ้าของควรระวังไว้ให้ดี




  โรคอันตรายของหมาและแมว ที่เจ้าของพึงหมั่นสังเกตพฤติกรรมและรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีหากมีความผิด ปกติ เพราะโรคอันตรายของหมาและแมวทั้ง 10 โรคนี้มีความอันตรายถึงขั้นตายได้เลยทีเดียว

        อย่าชะล่าใจหากพบว่าหมาและแมวที่ บ้านมีพฤติกรรมหรืออาการที่แปลกไป เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายทั้ง 10 โรคนี้ที่อาจส่งผลถึงตายได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการเซื่องซึม กินน้อย ท้องเสีย มีกลิ่นเหม็นคาวจากปาก ซึ่งในวันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอรวบรวม 10 โรคร้ายเสี่ยงอันตรายถึงตายของหมาและแมวมาให้เจ้าของได้รู้และระมัดระวัง ไว้สังเกตพฤติกรรมกับอาการจะได้พาไปพบสัตวแพทย์ได้ทันเวลาหากมีความผิดปกติ ก่อนสายไป
 

1. โรคอ้วน

        สัตว์เลี้ยงที่อ้วนตุ้ยนุ้ยอาจจะดูน่ารักน่าฟัดสำหรับเจ้าของ แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไร หากเหล่าหมาและแมวมีน้ำหนักที่มากเกินไป เพราะโรคอ้วนทำให้สัตว์เลี้ยงเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคไขข้ออักเสบ สำหรับวิธีดูแลหรือรักษาที่เจ้าของทำได้ก็คือ การช่วยควบคุมอาหารและพาไปออกกำลังกายเป็นประจำ 


2. พยาธิหนอนหัวใจ

        โรคนี้มียุงเป็นพาหะ ส่วนมากจะเกิดกับหมามากกว่าแมว หมาที่ติดเชื้อจะมีอาการซึม เหนื่อยง่าย หายใจหอบ ร่างกายอ่อนเพลีย ไอแห้ง ๆ บางตัวจะมีเลือดออกมาด้วยเมื่อไอ ต่อมาจะบวมน้ำ เป็นท้องมาน และตายในที่สุด การรักษาด้วยการฉีดยามีความเสี่ยงสูง อาจมีผลข้างเคียงถึงขั้นตาย เนื่องจากตัวแก่ของพยาธิหนอนหัวใจที่ตายแล้วเข้าไปอุดหลอดเลือด
 

3. โรคเกี่ยวกับฟันและช่องปาก

        หมาและแมวที่มีกลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก ถ้าพบว่าเป็นโรคที่เกี่ยวกับช่องปาก เช่น ฟันผุหรือโรคเหงือก ควรพาไปรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากการรักษามีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งยังอาจจะนำไปสู่โรคที่เกี่ยวกับหัวใจและไตได้ สำหรับวิธีป้องกันให้หาขนมหรือของเล่นขัดฟันให้แทะ


4. โรคไวรัสลำไส้อักเสบ

        โรคลำไส้อักเสบเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่มักจะเกิดขึ้นกับลูกหมาหรือลูกแมวที่ ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยเชื้อจะเข้าสู่รางกายจากการสัมผัสโดยตรงกับอุจจาระของหมาที่เป็นโรคไวรัส ลำไส้อักเสบ จากการกิน เลียอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค หมาและแมวที่ติดเชื้อจะมีอาการซึม อาเจียน ไม่กินอาหารเลย กินแต่น้ำ ในระยะท้ายจะถ่ายเป็นมูกเลือด กลิ่นเหม็นคาวจัด การป้องกันทำได้โดยการฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 45-60 วัน และฉีดวัคซีนกระตุ้นทุก 2-3 สัปดาห์ จนกว่าอายุจะครบ 4 เดือน จากนั้นให้ฉีดกระตุ้นติดต่อกันทุกปี
 

5. โรคไข้หัดสุนัข

        เป็นโรคที่พบได้ในสุนัขอายุ 2-6 เดือน เชื้อไวรัสไข้หัดสุนัขจะปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น ตามร้านขายสุนัขที่ไม่สะอาด ตามกรง ชามน้ำ อาหาร หรือแม้แต่มือของคนก็สามารถเป็นพาหะนำเชื้อได้ หมาที่ได้รับเชื้อจะมีอาการเบื่ออาหาร ไข้ มีน้ำมูก น้ำตา ตาอักเสบ ปอดบวม บางราย อาเจียน ท้องเสีย และพบตุ่มหนองใต้ท้อง ส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่เป็นโรคนี้มักจะตาย เนื่องจากยังไม่มีทางรักษาเฉพาะ แต่ทั้งนี้สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน
 

6. โรคพิษสุนัขบ้า

        โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies Virus) ซึ่งเชื้อนี้จะก่อโรคในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเลือดอุ่นทุกชนิด แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับหมามากที่สุด ปัจจุบันยังไม่มียารักษา ส่วนใหญ่ทั้งสัตว์และคนที่ติดเชื้อจะเสียชีวิต แต่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน


7. โรคติดต่อจากเห็บและหมัด

        เห็บและหมัดนอกจากจะดูดเลือดและทำให้ระคายเคืองผิวหนังแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคพยาธิในเม็ดเลือด สาเหตุของโรคมาจากปรสิตที่อยู่ในตัวเห็บและหมัด สำหรับการป้องกันคือ หมั่นกำจัดเห็บและหมัดในหมาและแมว รวมถึงบริเวณที่นอนและสนามหญ้าในบ้านด้วย
 

8. โรคข้ออักเสบ

        โรคนี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อกระดูกต่าง ๆ ส่วนมากมักจะเกิดกับหมาและแมวที่มีอายุมาก ขยับตัวช้า โดยเฉพาะตอนลุกยืน เนื่องจากปวดไขข้อ การรักษาสัตวแพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ ทั้งนี้สามารถป้องกันได้โดยการควบคุมน้ำหนักและพาไปออกกำลังเป็นประจำ

9. เบาหวาน

        หมาและแมวก็สามารถเป็นโรคเบาหวานได้เช่นเดียวกับคน สาเหตุหลักมาจากโรคอ้วน ซึ่งสามารถควบคุมน้ำหนักได้ โดยการเลือกอาหารและออกกำลังกาย สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจจะต้องฉีดยาควบคุมระดับน้ำตาลก่อนการกินอาหารร่วมด้วย
 

10. โรคไตวาย

        โรคไตวายสามารถพบได้ทั้งในหมาและแมว ส่วนมากจะตรวจเจอในแมวที่มีอายุเยอะ สาเหตุของโรคนี้มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น อายุ สายพันธุ์ รวมถึงนิสัยการกิน สัตว์ที่เป็นโรคไตวายจะมีอาการซึมเศร้า น้ำหนักลด ขนหยาบแห้ง มีกลิ่นปาก โดยส่วนมากจะรักษาตามอาการ
 

        โรคร้ายทั้ง 10 ชนิดเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากการกิน แหล่งที่อยู่ และการออกกำลังกาย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เจ้าของสามารถควบคุมได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หมาและแมวเป็นโรคเหล่านี้ เจ้าของก็ต้องคอยดูแล หมั่นสังเกตพฤติกรรม และพาไปพบสัตวแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
http://pet.kapook.com/view156886.html
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/290341507202753969/

No comments:

Post a Comment