Saturday, April 22, 2017

15 วิธีดูแลแมวเปอร์เซียที่คุณรัก




       แมวเปอร์เซียนั้นได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมไปทั่วโลก ด้วยความที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องรูปร่าง หน้าตา ที่ชวนให้ใคร ๆ หลงรักได้ง่าย ๆ รวมถึงขนนุ่มสลวยของมัน และที่สำคัญนิสัยร่าเริง และขี้ประจบ ทำให้มัดใจเจ้านายได้อยู่หมัด แต่ในการด้านเลี้ยงดูแล้ว แมวพันธุ์นี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรเรียนรู้ที่จะดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับเราได้นาน ๆ อย่างมีความสุข... ว่าแล้วก็ไปดูวิธีดูแลแมวเปอร์เซียกันเลย

1. หมั่นแปรงขนเป็นประจำ
         จุดเด่นของแมวเปอร์เซียนั้นอยู่ที่ขนนุ่มยาวของมัน ที่ทำให้แมวเปอร์เซียดูสง่าหรูหรามากกว่าพันธุ์ไหน ๆ จนเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย เราจึงควรดูแลขนของมันให้ดูนุ่มสลวยอยู่เสมอ ด้วยการใช้หวีแปรงขนให้แมวของคุณ อย่างน้อยวันละ 15 นาที นอกจากนี้ ควรเน้นในจุดที่น้องแมวของคุณไม่สามารถเอื้อมไปเลียขนไม่ถึง เป็นพิเศษด้วย เช่น ที่คอ ขา และหาง

2. อย่าปล่อยให้แมวอ้วนจนเกินไป
         แม้ว่าแมวอ้วนกลมจะดูน่ารักน่าเอ็นดูก็เถอะ แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้อ้วนจนเกินไป เพราะมันจะไม่ดีกับสุขภาพร่างกายของเจ้าเหมียวแน่ ๆ แต่ถ้าหากเผลอตามใจจน "เสียแมว" ไปแล้วล่ะก็ ยังไม่สายที่คุณจะจับเขามาเข้าคอร์สไดเอทด้วยการเลือกอาหารลดน้ำหนักสำหรับแมวโดยเฉพาะ หรือปรับลดเนื้อสัตว์ เพิ่มผักทีละน้อย และเพิ่มขึ้นในทุก ๆ มื้อจนกว่าเจ้าเหมียวจะคุ้นชิน ซึ่งแรก ๆ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณอาจจะไม่ปลื้ม และกินอาหารได้น้อยลง แต่นั่นล่ะ คือผลลัพธ์สู่หุ่นสวยสุขภาพดี ดังนั้น จงอย่าใจอ่อนเลยเชียวล่ะ อย่างไรก็ตาม แมวแต่ละตัวอาจมีสภาพร่างกายที่ต่างกัน เพราะฉะนั้น ควรปรึกษาสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดด้วย 
 3. อาบน้ำบ่อย ๆ
         การที่แมวของเรามีเนื้อตัวสกปรก นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพของมันแล้ว ยังกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคในบ้านอีกด้วย เราจึงควรรักษาความสะอาดของมันอยู่เสมอ ด้วยการอาบน้ำให้แมวอย่างน้อยเดือนละครั้ง ทั้งนี้ หากแมวของคุณออกไปนอกบ้าน หรือมีเหตุให้ต้องคลุกคลีกับสิ่งสกปรกอยู่บ่อย ๆ ก็ควรอาบนำให้บ่อยขึ้น ประมาณอาทิตย์ละครั้ง

4. ดูแลรอบดวงตาของมันด้วย
         เพราะรูปหน้าที่เชิดรั้นเข้าคู่กับแก้มป่อง ๆ ของแมวเปอร์เซีย ทำให้มันต้องประสบปัญหาจากคราบน้ำตา และขี้ตาที่เกาะติดรอบตาจนยากจะเอาออกอยู่เสมอ การดูแลรอบตาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และละเลยเสียไม่ได้ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลรอบตาแมวโดยเฉพาะมาเช็ดตามรอบตาของมัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกหาซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ ก็สามารถนำกระดาษทิชชู่ชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตามรอบตาของเจ้าเหมียวของคุณได้เช่นกัน

5. ไม่ควรปล่อยแมวออกไปข้างนอกบ่อยนัก
         แม้แมวส่วนใหญ่จะชอบออกไปผญภัยนอกบ้าน แต่แมวเปอร์เซียนั้นกลับต่างออกไป เพราะขนยาว ๆ ของมันจะทำให้มันรู้สึกอบอ้าวขึ้นมาอีก ถ้าต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน ๆ ภายนอก และมันก็ไม่ใช่แมวที่ขยันสำรวจหาสิ่งใหม่ ๆ นัก ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันยังไปเกี่ยวพันกับสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าแมวทั่ว ๆ ไปอีกด้วย มันจึงเหมาะกับการเลี้ยงในบ้านมากกว่า
 6. รับมือกับโรคถุงน้ำที่ไต
         แมวเปอร์เซียประมาณ 36 - 49 % มักจะเป็นโรคถุงน้ำที่ไตซึ่งทำให้มันสูญเสียความสามารถในการกรองสารพิษออกจากร่างกาย โดยจะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ช่วงอายุ 3 - 10 ปี ซึ่งมันจะมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาเจียน เซื่องซึม และกระหายน้ำมากจนผิดสังเกต อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีวิธีรักษาโรคดังกล่าวนี้ให้หายขาด เพราะฉะนั้น หากแมวของคุณมีอาการดังกล่าว ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อปรึกษาหาวิธีดูแล และจัดเรื่องอาหารให้มันอย่างถูกวิธี

7. อย่าปล่อยให้แมวของคุณขี้เกียจจนเกินไป 
         แมวเปอร์เซีย มักมีอุปนิสัยขี้เกียจกว่าแมวทั่วไป และพร้อมจะนอนอยู่เฉย ๆ ได้ทั้งวันโดยไม่รู้จักเบื่อ เราจึงควรหากิจกรรมใหม่ ๆ มาเรียกร้องความสนใจอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้มันใช้ชีวิตเอื่อยเฉื่อยจนตัวอ้วนกลมเกินไป อาจจะหาซื้อของเล่นใหม่ ๆ เช่น ลูกบอล หรือไม้แหย่แมว มาคอยดึงความสนใจของมันก็ได้

8. ให้อาหารแต่พอเหมาะ
         ควรให้อาหารในจำนวนที่พอดีเพื่อไม่ให้แมวของคุณทานมากจนเกินไป นอกจากนี้ หากแมวของคุณมีอาการผิดปกติหลังกินอาหาร เช่น ท้องเสีย หรืออาเจียน ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะมันอาจมีอาการไม่ถูกกับอาหารบางชนิดก็ได้  ฉะนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์ดูให้ดีว่าแมวของคุณเหมาะกับอาหารแบบไหน
 9. รับมือกับปัญหาขนร่วง
         แน่นอนว่าแมวเปอร์เซียที่มีขนยาวเป็นพิเศษนั้น มักมีขนร่วงจำนวนมาก จนยากที่จะคอยดูแลเก็บทิ้งตลอดเวลา บรรดาเจ้าของแมวทั้งหลายจึงเลือกที่จะพยายามทำให้แมวของตนมีขนร่วงลดลงให้มากที่สุด ด้วยการให้ทานอาหารสำเร็จรูปสูตรที่ทำให้ขนหลุดร่วงลดลงแทน อย่างไรก็ตาม นอกจากวิธีดังกล่าวแล้ว คุณสามารถเลือกใช้วิธีอื่นได้อีกเช่นกัน ด้วยการให้แมวของคุณทานต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีเป็นประจำ ทั้งนี้ ต้องมั่นใจได้ว่า ต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีที่คุณนำมาให้แมวของคุณทานนั้นปลอดสารพิษ เพื่อให้ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพของแมว
 10. สังเกตปัญหาเรื่องการหายใจ
         เนื่องจากแมวเปอร์เซีย มีโพรงจมูกที่ค่อนข้างสั้น จึงทำให้มันต้องประสบปัญหาในการหายใจอยู่เสมอ และในกรณีที่เป็นหนักเข้า แมวบางตัวอาจจำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ช่วยผ่าตัดแก้ไข เพื่อให้หายใจได้สะดวก ดังนั้นคุณจึงควรสังเกตพฤติกรรมของมันอยู่เสมอ หากแมวของคุณส่งเสียงทางจมูกบ่อย ๆ หรือมีอาการกรนดังผิดปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
 11. ทำความสะอาดหูเป็นประจำ
         แน่นอนว่าแมวของคุณไม่สามารถทำความสะอาดหูด้วยตัวเองได้ เจ้าของอย่างคุณจึงจำเป็นต้องเป็นคนคอยจัดการดูแลให้มันอยู่เสมอ ด้วยการใช้กระดาษทิชชู่ หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดให้มัน ทั้งนี้ หูของแมวนั้นเป็นส่วนที่อ่อนไหวมาก คุณจึงควรพยายามทำความสะอาดให้เบามือที่สุด และใช้เวลาให้น้อยที่สุดด้วย
 12. มองหาแมวจากร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้น
         หากคุณต้องการแมวเปอรเซียพันธุ์แท้ที่ไม่ได้มีโรคติดตัว ก็ควรเลือกมองหาในร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น ร้านที่มีชื่อเสียง หรือร้านที่คนรู้จักของคุณแนะนำให้ นอกจากนี้ ระหว่างที่กำลังหาซื้อลูกแมว ก็ควรถามเรื่องความรู้เกี่ยวกับแมวกับเขาด้วย หากเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้จริง ๆ เขาก็จะสามารถแนะนำแมวเปอร์เซียลักษณะดี และวิธีการดูแลที่ถูกต้องให้คุณได้แน่นอน

13. อย่าละเลยเวลาที่มันอ้อน
         แม้บางครั้งคุณจะยุ่งกับชีวิตทำงาน และครอบครัวมากจนแทบไม่มีเวลา ก็ควรแบ่งเวลาไว้ดูแลแมวของคุณด้วย เพราะมันก็ชรู้สึกน้อยใจได้เหมือนกันเวลาที่เจ้าของไม่สนใจ ดังนั้นเวลาที่มันอ้อนด้วยการคลอเคลียเอาใจ ก็ควรหันไปเล่นกับมันบ้าง เพื่อให้เขาไม่รู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจมันเท่าที่ควร จำไว้ว่าไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ต้องการความรัก และการเอาใจใส่ด้วยกันทั้งนั้น

14. ตัดแต่งขนให้ดูดีอยู่เสมอ
         หากต้องการให้แมวของคุณดูสวยโดดเด่นอยู่เสมอ ก็ควรหมั่นพาไปตัดขนที่ร้านเป็นประจำ เพื่อให้ช่างสามารถใช้ลูกเล่น ซอยไล่ระดับขนให้ออกมาดูเป็นประกายสวยงามได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณเบื่อกับการตัดขนแบบเดิม ๆ อาจขอให้ช่างตัดทรงอื่น ๆ ให้กับแมวของคุณด้วยทรงต่าง ๆ เช่น ทรงสิงโตที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ก็ได้
 15. ดูแลฟันให้สะอาด
         ฟันของสัตว์เลี้ยงมักเป็นสิ่งที่เจ้าของละเลยที่จะสนใจอยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การดูแลสุขภาพปากของสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะถ้าหากเกิดการติดเชื้อในช่องปากขึ้นแล้ว อาจนำมาซึ่งโรคร้ายสารพัด และทำให้แมวของคุณอายุสั้นลงได้อีกหลายปี เราจึงควรดูแลฟันของแมวที่เรารักให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการใช้แปรงสีฟันขนาดเล็กแปรงให้มันเป็นประจำ
         เพียงแค่ทำตามวิธีดูแลทั้ง 15 ข้อนี้ แมวเปอร์เซียของคุณก็สามารถอยู่กับคุณได้นานหลายปีโดยมีสุขภาพที่ดีได้แล้ว เพราะฉะนั้น คนรักแมวทั้งหลายอย่าลืมนำเทคนิคการดูแลนี้ไปใช้กับเจ้าเหมียวที่บ้านกันนะจ๊ะ

เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/explore/teacup-persian-kittens/

No comments:

Post a Comment