ใครที่แอบชอบในความน่ารัก(ไม่นับนิสัยดุ ร้าย) ของเสือ
จนอยากเข้าไปกอด หรือมีไว้ในครอบครองดูบ้าง แต่ก็ได้แต่ฝันเพราะหากเป็นเรื่องจริงคงถูกเจ้าเสือขย้ำเอาเสียก่อน
ถ้างั้น... ลองมาดู "แมวเบงกอล"
แมว ป่าที่ผสมกับแมวบ้าน จนเกิดลวดลายสวยงาม
รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากแมวบ้าน ดูไปดูมาเหมือนลูกเสือดาวน้อย
และยังเป็นที่นิยมในหมู่ไฮโซด้วย เพราะสนนราคาต่อตัวค่อนข้างสูง
ที่สำคัญนิสัยของเจ้าแมวเบงกอลก็ไม่ได้ดุดันอย่างที่กำลังคิดกันด้วยนะ แถมยังเชื่องแสนเชื่อง เป็นมิตร ชอบอยู่กับคน น่ารัก และคล่องแคล่วปราดเปรียว มีนิสัยชอบวิ่งไล่สิ่งของ หรือวัตถุ ชอบปีนป่าย ชอบไล่จับหนู หากไม่มีอะไรให้เล่นก็จะของเล่นด้วยตัวเอง มีเสียงร้องที่ฟังแล้วเหมือนแมวป่าค่อนข้างมาก ส่วนสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าที่คงหลงเหลือให้เห็นอยู่ กลับกลายเป็นลักษณะเด่นของแมวเบงกอล นั่นคือ ความมั่นใจในตนเอง ความกล้าหาญ ไม่ขลาดกลัว และความเฉลียวฉลาดในการเอาตัวรอด และที่แตกต่างจากแมวเกือบทุกชนิดอย่างมาก คือ แมวเบงกอลมีนิสัยชอบเล่นน้ำอย่างมาก!?!?!
ทั้งนี้ แมวเบงกอล (Bengal) เป็นแมวที่ผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างแมวดาว (Asian Leopard Cat) กับแมวบ้าน (Domestic Shorthair) ในที่นี้คือ Egyptian Mau คือ พันธุ์แมวอียิปต์โบราณ และมีโครงสร้างเป็นหลายจุด มีลักษณะที่เหมือนแมวป่า (wild cat) ซึ่งการผสมข้ามสายพันธุ์ของแมวดาว กับ E.Mau and Ocicat
การกำเนิดขึ้นของแมวเบงกอล เริ่มโดยคุณ Jean Mills หญิงชาวมลรัฐอริโซนา ประเทศอเมริกาที่หลงใหลในลวดลายของแมวป่า เธอใช้เวลาถึง 20 ปี (เริ่มมาตั้งแต่ปี 1980 หรือ 2523) ในการพัฒนาให้มีจุด (Spotted ที่ใหญ่และแมวตัวผู้ไม่เป็นหมัน (แมวตัวผู้จะเป็นหมันใน F1 and F2) จนสามารถสร้างจุดให้ใหญ่และมีสีที่ตัดกันในจุดมากขึ้นด้วย และเธอตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ว่า เบงกอล ตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis bengolensis นั่นเอง
ลักษณะประจำพันธุ์
แมวเบงกอล เป็นแมวขนาดปานกลางถึงค่อนข้าง หัวมีความยาวมากกว่ากว้าง เนื่องเพราะถูกผสมโดยควบคุมลักษณะให้มีรูปร่างคล้ายแมวป่า เพรียว ยาว เห็นมัดกล้ามเนื้อแบบนักล่าชัดเจน โฑดยที่มักจะมีความสูงส่วนสะโพกสูงกว่าความสูงของช่วงไหล่ หาวส่วนมากจะมีปลายชี้ลง ใบหูกลม สั้น ตารูปไข่ (oval) ช่วงโคนหนวดเด่น ช่วงปากและรอบจมูกกลมกว่าแมวบ้าน จุดที่เด่นที่สุดของแมวเบงกอลได้แก่ลายแลีสีขนที่อาจเป็นจุดแบบแมวป่า หรือลายหินอ่อน
หากเริ่มสนใจจะหาเจ้าเหมียวพันธุ์เบงกอลมานอนกอดสักตัวแล้วล่ะก็ ต้องเลือกซื้อแมวเบงกอลที่มีสายตา ต้อง มีโครงสร้างใหญ่ ลำตัวยาว มีลวดลายบนตัวที่เด่นชัดขนาดเท่าหัวแม่มือ จุดด้านข้างลำตัวมีขนาดใหญ่และเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบในแนวนอน แมวเบงกอลบางตัวจะมีลวดลายโรเซ็ทที่เป็นจุดขนาดใหญ่ที่มีสีอ่อนกว่าตรงกลาง จุด คล้ายๆ กับลายของเสือจากัวร์ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากกว่าแมวที่มีจุดสีเดียวตามปกติ …
ลายทางที่หน้าผากควรมีสีเข้ามลากยาวในแนวนอนจากหางตาไปถึงใบหู และควรมีเส้นสีเข้มเป็นสร้อยคอยาวรอบๆ คอเฉียบคม ขนเงานุ่ม ใบหน้าของลูกแมวนั้นต้องมีลักษณะที่แสดงถึงความเป็นแมวป่า มีขอบตาดำสนิท เส้นที่ใบหน้าเข้ม ริมฝีปากใหญ่เต็ม มีหางที่หนา มีจุดที่ขาหรือเป็นวงที่ไม่เต็มวงรอบๆขา มีสีอ่อนบริเวณรอบปาก คอ และขาด้านใน ดวงตานั้นสามารถจะเป็นสีเขียว สีทอง หรือสีเหลือง
อาหารและการเลี้ยงดู
ปัจจุบันแมวเบงกอลเริ่มเป็นที่รู้จักในไทยมากขึ้น แต่อาจยังแพร่หลายเช่นแมวชนิดอื่นๆ เนื่องจากยังมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น เมื่อตัดสินใจซื้อมาแล้ว ควรใส่ใจดูแลอย่างดี ซึ่งวิธีการเลี้ยงก็ใกล้เคียงกับแมวทั่วๆ ไป เพราะถือป็นแมวบ้านเช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่น
แต่ถ้าหากอยากให้แมวสวย สุขภาพดี และมีขนที่สวยงาม การเลือกอาหารที่ดีให้กับแมวนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ อาหารสำเร็จรูปที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าขนและสุขภาพของแมวนั้นจะสวยที่สุด ส่วนเรื่องของการตัดเล็บ อาบน้ำ แปรงขน เช็ดหู และทำความสะอาดส่วนต่างๆนั้น จะเหมือนกับแมวทั่วๆ ไป
เรื่องอาหาร แมวเบงกอลอาจจะต้องการเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มากกว่าแมวทั่วไปเล็กน้อย โดยผู้เลี้ยงอาจจะให้เนื้อวัวสดวันละครั้งเพิ่มเติมจากอาหารที่กินอยู่เป็น ประจำ ซึ่งจะไม่ทำให้ท้องเสียหรือเสียสุขภาพ เนื้อสดที่ให้ควรระมัดระวังความสะอาดด้วยการแช่แข็งเอาไว้เพื่อป้องกันการ เจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย และควรเก็บเนื้อที่เหลือทิ้งทันที อย่างไรก็ตาม ห้ามให้เนื้อไก่หรือเนื้อหมูสดเด็ดขาด
ที่สำคัญนิสัยของเจ้าแมวเบงกอลก็ไม่ได้ดุดันอย่างที่กำลังคิดกันด้วยนะ แถมยังเชื่องแสนเชื่อง เป็นมิตร ชอบอยู่กับคน น่ารัก และคล่องแคล่วปราดเปรียว มีนิสัยชอบวิ่งไล่สิ่งของ หรือวัตถุ ชอบปีนป่าย ชอบไล่จับหนู หากไม่มีอะไรให้เล่นก็จะของเล่นด้วยตัวเอง มีเสียงร้องที่ฟังแล้วเหมือนแมวป่าค่อนข้างมาก ส่วนสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าที่คงหลงเหลือให้เห็นอยู่ กลับกลายเป็นลักษณะเด่นของแมวเบงกอล นั่นคือ ความมั่นใจในตนเอง ความกล้าหาญ ไม่ขลาดกลัว และความเฉลียวฉลาดในการเอาตัวรอด และที่แตกต่างจากแมวเกือบทุกชนิดอย่างมาก คือ แมวเบงกอลมีนิสัยชอบเล่นน้ำอย่างมาก!?!?!
ทั้งนี้ แมวเบงกอล (Bengal) เป็นแมวที่ผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างแมวดาว (Asian Leopard Cat) กับแมวบ้าน (Domestic Shorthair) ในที่นี้คือ Egyptian Mau คือ พันธุ์แมวอียิปต์โบราณ และมีโครงสร้างเป็นหลายจุด มีลักษณะที่เหมือนแมวป่า (wild cat) ซึ่งการผสมข้ามสายพันธุ์ของแมวดาว กับ E.Mau and Ocicat
การกำเนิดขึ้นของแมวเบงกอล เริ่มโดยคุณ Jean Mills หญิงชาวมลรัฐอริโซนา ประเทศอเมริกาที่หลงใหลในลวดลายของแมวป่า เธอใช้เวลาถึง 20 ปี (เริ่มมาตั้งแต่ปี 1980 หรือ 2523) ในการพัฒนาให้มีจุด (Spotted ที่ใหญ่และแมวตัวผู้ไม่เป็นหมัน (แมวตัวผู้จะเป็นหมันใน F1 and F2) จนสามารถสร้างจุดให้ใหญ่และมีสีที่ตัดกันในจุดมากขึ้นด้วย และเธอตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ว่า เบงกอล ตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis bengolensis นั่นเอง
ลักษณะประจำพันธุ์
แมวเบงกอล เป็นแมวขนาดปานกลางถึงค่อนข้าง หัวมีความยาวมากกว่ากว้าง เนื่องเพราะถูกผสมโดยควบคุมลักษณะให้มีรูปร่างคล้ายแมวป่า เพรียว ยาว เห็นมัดกล้ามเนื้อแบบนักล่าชัดเจน โฑดยที่มักจะมีความสูงส่วนสะโพกสูงกว่าความสูงของช่วงไหล่ หาวส่วนมากจะมีปลายชี้ลง ใบหูกลม สั้น ตารูปไข่ (oval) ช่วงโคนหนวดเด่น ช่วงปากและรอบจมูกกลมกว่าแมวบ้าน จุดที่เด่นที่สุดของแมวเบงกอลได้แก่ลายแลีสีขนที่อาจเป็นจุดแบบแมวป่า หรือลายหินอ่อน
หากเริ่มสนใจจะหาเจ้าเหมียวพันธุ์เบงกอลมานอนกอดสักตัวแล้วล่ะก็ ต้องเลือกซื้อแมวเบงกอลที่มีสายตา ต้อง มีโครงสร้างใหญ่ ลำตัวยาว มีลวดลายบนตัวที่เด่นชัดขนาดเท่าหัวแม่มือ จุดด้านข้างลำตัวมีขนาดใหญ่และเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบในแนวนอน แมวเบงกอลบางตัวจะมีลวดลายโรเซ็ทที่เป็นจุดขนาดใหญ่ที่มีสีอ่อนกว่าตรงกลาง จุด คล้ายๆ กับลายของเสือจากัวร์ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากกว่าแมวที่มีจุดสีเดียวตามปกติ …
ลายทางที่หน้าผากควรมีสีเข้ามลากยาวในแนวนอนจากหางตาไปถึงใบหู และควรมีเส้นสีเข้มเป็นสร้อยคอยาวรอบๆ คอเฉียบคม ขนเงานุ่ม ใบหน้าของลูกแมวนั้นต้องมีลักษณะที่แสดงถึงความเป็นแมวป่า มีขอบตาดำสนิท เส้นที่ใบหน้าเข้ม ริมฝีปากใหญ่เต็ม มีหางที่หนา มีจุดที่ขาหรือเป็นวงที่ไม่เต็มวงรอบๆขา มีสีอ่อนบริเวณรอบปาก คอ และขาด้านใน ดวงตานั้นสามารถจะเป็นสีเขียว สีทอง หรือสีเหลือง
อาหารและการเลี้ยงดู
ปัจจุบันแมวเบงกอลเริ่มเป็นที่รู้จักในไทยมากขึ้น แต่อาจยังแพร่หลายเช่นแมวชนิดอื่นๆ เนื่องจากยังมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น เมื่อตัดสินใจซื้อมาแล้ว ควรใส่ใจดูแลอย่างดี ซึ่งวิธีการเลี้ยงก็ใกล้เคียงกับแมวทั่วๆ ไป เพราะถือป็นแมวบ้านเช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่น
แต่ถ้าหากอยากให้แมวสวย สุขภาพดี และมีขนที่สวยงาม การเลือกอาหารที่ดีให้กับแมวนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ อาหารสำเร็จรูปที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าขนและสุขภาพของแมวนั้นจะสวยที่สุด ส่วนเรื่องของการตัดเล็บ อาบน้ำ แปรงขน เช็ดหู และทำความสะอาดส่วนต่างๆนั้น จะเหมือนกับแมวทั่วๆ ไป
เรื่องอาหาร แมวเบงกอลอาจจะต้องการเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มากกว่าแมวทั่วไปเล็กน้อย โดยผู้เลี้ยงอาจจะให้เนื้อวัวสดวันละครั้งเพิ่มเติมจากอาหารที่กินอยู่เป็น ประจำ ซึ่งจะไม่ทำให้ท้องเสียหรือเสียสุขภาพ เนื้อสดที่ให้ควรระมัดระวังความสะอาดด้วยการแช่แข็งเอาไว้เพื่อป้องกันการ เจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย และควรเก็บเนื้อที่เหลือทิ้งทันที อย่างไรก็ตาม ห้ามให้เนื้อไก่หรือเนื้อหมูสดเด็ดขาด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- thaipost.net
- bangkokbengals.net
- thaipost.net
- bangkokbengals.net
http://pet.kapook.com/view170.html
No comments:
Post a Comment