แมวเหมียวตัวน้อย ตาแบ๊ว ๆ ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ว่าง่ายสักเท่าไหร่ เพราะแมวก็มีความฉลาดและสามารถฝึกให้ทำตามคำสั่งหรือสิ่งที่เจ้าของต้องการได้ไม่แพ้สัตว์เลี้ยงชนิดอื่น
ๆ เลย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนไม่สามารถฝึกให้แมวทำตามคำสั่งได้ ก็อาจสืบเนื่องมาจากการฝึกผิดวิธีด้วยความคิดแบบผิด
ๆ นั่นเอง แต่ถ้าคุณเป็นทาสแมวที่อยากจะเลี้ยงเจ้าเหมียวให้ได้ดั่งใจ
ก็ลองมาทำตามเทคนิคฝึกแมวง่าย ๆ เหล่านี้ดู
เผื่อจะช่วยให้เจ้าเหมียวว่าง่ายขึ้นได้บ้างจ้า
1. เรียกเหมียว ๆ เดี๋ยวก็มา
คุณสามารถฝึกให้แมวตอบสนองกับเสียงเรียกและเดินมาตามทางที่คุณต้องการได้ โดยทางสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งอเมริกา (ASPCA) แนะนำว่า ให้เริ่มจากใช้เสียงเรียกแมวก่อนจะให้อาหาร อย่างเช่น ก่อนเปิดปากถุงหรือกระป๋องอาหาร ซึ่งคุณจะใช้การเรียกชื่อแมว ส่งเสียงร้องเหมียว ๆ หรือกระดกลิ้นรัว ๆ เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปหาแมวก็ได้ จากนั้นก็ทำตามวิธีดังกล่าวไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละประมาณ 5 นาที เพื่อให้แมวเรียนรู้และเชื่อมต่อระหว่างเสียงของคุณกับอาหาร เมื่อแมวตอบรับกับเสียงเรียกของคุณแล้วก็อย่าลืมให้รางวัล และค่อย ๆ เพิ่มระยะห่างระหว่างแมวกับเสียงเรียกด้วย
2. ขับถ่ายให้เป็นที่ดีกว่า
นอกจากนี้ยังฝึกให้แมวขับถ่ายในห้องน้ำได้ง่าย ๆ เริ่มจากการนำกระบะทรายมาวางในห้องน้ำ โดยค่อย ๆ ปรับความสูงของกระบะทรายขึ้นทีละนิดจนกระทั่งอยู่ในระดับเดียวกันกับที่นั่งบนชักโครก เมื่อแมวเริ่มคุ้นเคยกับการใช้กระบะทรายแล้ว ยกกระบะทรายไปวางเอาไว้บนที่นั่งของชักโครก แล้วทำตามขั้นตอนดังกล่าวไปจนกว่าแมวจะคุ้นเคย ในระหว่างนี้คุณควรจะค่อย ๆ ลดขนาดของกระบะทรายไปทีละนิด เพื่อให้แมวสามารถนั่งขับถ่ายบนชักโครกได้โดยไม่ต้องใช้กระบะทรายอีก
3. มามะ..มาจับมือกันหน่อย
ส่วนการสอนแมวให้จับมือนั้นก็ง่ายกว่าที่คิด แค่เพียงคุณลดตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับแมว จากนั้นแตะมือเบา ๆ ลงบนอุ้งเท้าของแมว และกดคลิกเกอร์ 1 ครั้ง (อุปกรณ์ฝึกแมว) ขณะที่เอามือออกจากอุ้งเท้าแมว แล้วทำตามขั้นตอนดังกล่าวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแมวสามารถยกอุ้งเท้าขึ้นมาเองได้โดยที่คุณไม่ต้องแตะมือ โดยส่วนใหญ่แล้วการฝึกแมวให้จับมือได้ใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 2-3 วันเท่านั้นเอง
4. อยากได้ก็ต้องขอ
การสอนแมวให้รู้จักขอร้องก็ใช้ขั้นตอนคล้าย ๆ กับการสอนแมวจับมือ แต่มีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยโดยคราวนี้ให้คุณถืออาหาร ขนม หรือของเล่นไว้เหนือหัวแมว แล้วรอจนกระทั่งแมวยืนด้วย 2 ขาหลังของตัวเองและใช้อุ้งเท้าด้านหน้าปัดอาหาร ในระหว่างนี้ก็กดคลิกเกอร์ 1 ครั้งก่อนจะยื่นอาหารให้แมว จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนดังกล่าวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแมวของคุณสามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องใช้สิ่งของหรืออาหารใด ๆ มาหลอกล่อ
5. สายจูงมีไว้ มาหัดใช้กันเถอะ
หากคุณใช้สายจูงกับแมวควรคล้องสายจูงไว้กับหลังแมวไม่ใช่ที่คอแมว และเริ่มฝึกโดยเริ่มจากนำวางสายจูงในที่ที่แมวอยู่ เพื่อให้แมวทำความคุ้นเคยกับสายจูงเสียก่อนประมาณ 1-2 วัน จากนั้นจึงค่อยนำสายจูงสวมให้แมว แล้วปล่อยให้แมวเดินเล่นกับสายจูงไปก่อน ส่วนคุณก็คอยเดินอยู่ใกล้ ๆ กับแมว เมื่อคุณเห็นว่าแมวคุ้นเคยและอยู่ในภาวะผ่อนคลาย สามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระแม้จะสวมสายจูงแล้ว จึงค่อยนำสายจูงมาถือไว้ในมือ และพาแมวออกไปเดินนอกบ้าน
1. เรียกเหมียว ๆ เดี๋ยวก็มา
คุณสามารถฝึกให้แมวตอบสนองกับเสียงเรียกและเดินมาตามทางที่คุณต้องการได้ โดยทางสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งอเมริกา (ASPCA) แนะนำว่า ให้เริ่มจากใช้เสียงเรียกแมวก่อนจะให้อาหาร อย่างเช่น ก่อนเปิดปากถุงหรือกระป๋องอาหาร ซึ่งคุณจะใช้การเรียกชื่อแมว ส่งเสียงร้องเหมียว ๆ หรือกระดกลิ้นรัว ๆ เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปหาแมวก็ได้ จากนั้นก็ทำตามวิธีดังกล่าวไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละประมาณ 5 นาที เพื่อให้แมวเรียนรู้และเชื่อมต่อระหว่างเสียงของคุณกับอาหาร เมื่อแมวตอบรับกับเสียงเรียกของคุณแล้วก็อย่าลืมให้รางวัล และค่อย ๆ เพิ่มระยะห่างระหว่างแมวกับเสียงเรียกด้วย
2. ขับถ่ายให้เป็นที่ดีกว่า
นอกจากนี้ยังฝึกให้แมวขับถ่ายในห้องน้ำได้ง่าย ๆ เริ่มจากการนำกระบะทรายมาวางในห้องน้ำ โดยค่อย ๆ ปรับความสูงของกระบะทรายขึ้นทีละนิดจนกระทั่งอยู่ในระดับเดียวกันกับที่นั่งบนชักโครก เมื่อแมวเริ่มคุ้นเคยกับการใช้กระบะทรายแล้ว ยกกระบะทรายไปวางเอาไว้บนที่นั่งของชักโครก แล้วทำตามขั้นตอนดังกล่าวไปจนกว่าแมวจะคุ้นเคย ในระหว่างนี้คุณควรจะค่อย ๆ ลดขนาดของกระบะทรายไปทีละนิด เพื่อให้แมวสามารถนั่งขับถ่ายบนชักโครกได้โดยไม่ต้องใช้กระบะทรายอีก
3. มามะ..มาจับมือกันหน่อย
ส่วนการสอนแมวให้จับมือนั้นก็ง่ายกว่าที่คิด แค่เพียงคุณลดตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับแมว จากนั้นแตะมือเบา ๆ ลงบนอุ้งเท้าของแมว และกดคลิกเกอร์ 1 ครั้ง (อุปกรณ์ฝึกแมว) ขณะที่เอามือออกจากอุ้งเท้าแมว แล้วทำตามขั้นตอนดังกล่าวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแมวสามารถยกอุ้งเท้าขึ้นมาเองได้โดยที่คุณไม่ต้องแตะมือ โดยส่วนใหญ่แล้วการฝึกแมวให้จับมือได้ใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 2-3 วันเท่านั้นเอง
4. อยากได้ก็ต้องขอ
การสอนแมวให้รู้จักขอร้องก็ใช้ขั้นตอนคล้าย ๆ กับการสอนแมวจับมือ แต่มีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยโดยคราวนี้ให้คุณถืออาหาร ขนม หรือของเล่นไว้เหนือหัวแมว แล้วรอจนกระทั่งแมวยืนด้วย 2 ขาหลังของตัวเองและใช้อุ้งเท้าด้านหน้าปัดอาหาร ในระหว่างนี้ก็กดคลิกเกอร์ 1 ครั้งก่อนจะยื่นอาหารให้แมว จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนดังกล่าวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแมวของคุณสามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องใช้สิ่งของหรืออาหารใด ๆ มาหลอกล่อ
5. สายจูงมีไว้ มาหัดใช้กันเถอะ
หากคุณใช้สายจูงกับแมวควรคล้องสายจูงไว้กับหลังแมวไม่ใช่ที่คอแมว และเริ่มฝึกโดยเริ่มจากนำวางสายจูงในที่ที่แมวอยู่ เพื่อให้แมวทำความคุ้นเคยกับสายจูงเสียก่อนประมาณ 1-2 วัน จากนั้นจึงค่อยนำสายจูงสวมให้แมว แล้วปล่อยให้แมวเดินเล่นกับสายจูงไปก่อน ส่วนคุณก็คอยเดินอยู่ใกล้ ๆ กับแมว เมื่อคุณเห็นว่าแมวคุ้นเคยและอยู่ในภาวะผ่อนคลาย สามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระแม้จะสวมสายจูงแล้ว จึงค่อยนำสายจูงมาถือไว้ในมือ และพาแมวออกไปเดินนอกบ้าน
ข้อควรรู้
ไม่ควรนำการลงโทษมาใช้กับการสอนแมว
แมวไม่สามารถเรียนรู้หรือจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้จากการลงโทษ อีกทั้งการฝึกแมวโดยใช้การลงโทษ ยังเป็นวิธีการที่เพิ่มความเครียดให้กับแมว นำแมวไปสู่พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พร้อมทั้งทำให้แมวของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพด้วย และสำหรับเจ้าของที่ต้องการจะฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรจะอดทนรอให้เวลาแมวเรียนรู้ ปรับตัว และคอยสนับสนุนแมวอย่างถูกวิธี
ไม่ควรนำการลงโทษมาใช้กับการสอนแมว
แมวไม่สามารถเรียนรู้หรือจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้จากการลงโทษ อีกทั้งการฝึกแมวโดยใช้การลงโทษ ยังเป็นวิธีการที่เพิ่มความเครียดให้กับแมว นำแมวไปสู่พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พร้อมทั้งทำให้แมวของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพด้วย และสำหรับเจ้าของที่ต้องการจะฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรจะอดทนรอให้เวลาแมวเรียนรู้ ปรับตัว และคอยสนับสนุนแมวอย่างถูกวิธี
คลิกเกอร์ หรืออุปกรณ์ช่วยฝึกแมว
การฝึกด้วยปากเปล่าอาจจะใช้เวลานาน ดังนั้นคงจะดีกว่าหากคุณมีอุปกรณ์ช่วยฝึกแมว อย่างเช่น คลิกเกอร์ หรืออาศัยเสียงกดเปิด-ปิดปากกาก็ได้ เพราะเสียงจากอุปกรณ์ช่วยฝึกดังกล่าวจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณเสียงเป็นสัญลักษณ์ให้แมวทำตามคำสั่ง และทำให้การฝึกแมวง่ายขึ้น แต่ถ้าหากไม่มีสัญญาณเสียงจากคลิกเกอร์หรืออุปกรณ์ช่วยฝึก แมวก็อาจจะสับสนได้ว่าทำไมเจ้าของให้รางวัลแก่พวกมัน
การฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง หรือมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกและวิธีฝึกแมวที่ถูกต้องเสียก่อน ก่อนนำมาใช้ในการฝึกแมวของตัวเอง เพื่อให้แมวสามารถทำตามคำสั่งของคุณได้ พร้อมกับป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ตามมา และมีความสุขทั้ง 2 ฝ่ายด้วยนะคะ
การฝึกด้วยปากเปล่าอาจจะใช้เวลานาน ดังนั้นคงจะดีกว่าหากคุณมีอุปกรณ์ช่วยฝึกแมว อย่างเช่น คลิกเกอร์ หรืออาศัยเสียงกดเปิด-ปิดปากกาก็ได้ เพราะเสียงจากอุปกรณ์ช่วยฝึกดังกล่าวจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณเสียงเป็นสัญลักษณ์ให้แมวทำตามคำสั่ง และทำให้การฝึกแมวง่ายขึ้น แต่ถ้าหากไม่มีสัญญาณเสียงจากคลิกเกอร์หรืออุปกรณ์ช่วยฝึก แมวก็อาจจะสับสนได้ว่าทำไมเจ้าของให้รางวัลแก่พวกมัน
การฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง หรือมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกและวิธีฝึกแมวที่ถูกต้องเสียก่อน ก่อนนำมาใช้ในการฝึกแมวของตัวเอง เพื่อให้แมวสามารถทำตามคำสั่งของคุณได้ พร้อมกับป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ตามมา และมีความสุขทั้ง 2 ฝ่ายด้วยนะคะ
No comments:
Post a Comment