เรื่องโดย ร.ต.อ.สพ.ญ.อารยา ผลสุวรรณ์ โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4
วันนี้ขอรายงานส่งตรงมาจาก ออร์แลนโด สหรัฐอเมริกา ด้วยข้อมูลที่ได้จากงานประชุมวิชาการ NAVC 2011 โดย Dr.Valerrie Fadok สัตวแพทย์ที่ Gulf Coast Veterinary Specialists เมือง Houston
ดูจะเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่สำหรับผู้เลี้ยงแมวไหมคะ ที่จะได้ทราบว่าแมวที่เราเลี้ยงอยู่ก็มีโอกาสเป็นโรคแพ้อาหารได้เช่นเดียวกับสุนัข เริ่มจากทบทวนก่อนว่าแมวไม่ใช่ลูกหมาน้อย ๆ นะ วันนี้จะมาบอกกล่าวถึงสิ่งที่เรารู้และบางสิ่งที่เรายังไม่รู้ โดยเฉพาะในเรื่องแมวที่แพ้อาหาร
อาการเบื้องต้น มักเกิดที่ผิวหนังก่อน โดยมีการอักเสบ แดง ขนร่วง โดยเฉพาะบริเวณหน้า หัว คอ จะพบบ่อยที่สุด และมีความจำเป็นที่จะต้องแยกอาการนี้จากโรคขี้เรื้อนในแมวให้ได้ ในตอนแรก และพบว่าในรายที่มีอาการทางผิวหนัง มักมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสียร่วมด้วย แต่ถ้าไม่เป็นที่ผิวหนัง อาจพบว่ามีอาการท้องเสียได้อย่างเดียว
อาหารที่แมวทานแล้วมักจะแพ้ จะอยู่ในกลุ่ม นม ไข่ ถั่ว เนื้อสัตว์ มีแมวบางตัวที่แพ้ได้ทั้งเนื้อปลาและเนื้อแกะ ดังนั้นการรักษาในรายที่แพ้อาหารนั้นไม่ใช่การรักษาทางยา แต่ควรเป็นการรักษาด้วยอาหารนี่แหละ และไม่ควรลืมว่า ได้ถ่ยพยาธิในลำไส้อย่างสม่ำเสมอแล้วด้วย เพราะมีรายงานว่า อาการแพ้อาหารในแมว ส่วนหนึ่งอาจมีสาเหตุมาจากพยาธิในทางเดินอาหาร และที่สำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งในการควบคุมการแพ้อาหาร คือ ไม่ควรเลี้ยงแมวแบบปล่อยออกนอกบ้าน ควรให้วิ่งเล่นในบ้าน เพราะไม่รู้ว่า เมื่อออกนอกบ้านไป จะไปขโมยอาหารของบ้านอื่นทานหรือไม่
โดยสรุปคือ การรักษาที่ได้ผลดีที่สุด คือการรักษาด้วยอาหาร ไม่ใช่การใช้ยา และ You are what you eat กินอย่างไรก็ได้อย่างนั้น นอกจานี้ ในแมวบางตัวที่มีอาการของโรคผิวหนังบริเวณดังกล่าวอยู่นานแล้ว ไม่หายสักที ลองปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
1. รวบรวมประวัติของชนิดอาหารที่เคยให้แมวทานมาตั้งแต่แรก
2. ควรเลืออาหารที่คิดว่าเหมาะสมก่อนเพียงชนิดเดียว
3. แมวสามารถยอมทานอาหารที่จัดให้ได้ตามปกติ
4. ใช้อาหารที่แมวเลือกทานเป็นเวลานานอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ติดต่อกัน บางรายอาจให้เวลานานถึง 12 สัปดาห์ หากอาการที่ผิวหนังดีขึ้น ให้ใช้ต่อไป
5. เมื่อครบ 12-14 สัปดาห์ กลับมาให้อาหารตัวเดิม แล้วสังเกตว่ากลับมามีอาการคันอีกหรือไม่ ถ้าเป็นอีก แสดงว่าแมว แพ้อาหารชนิดดังกล่าว
จะเห็นว่าการรักษาแมว เราไม่ได้ใช้ยาชนิดที่ไปลดการเกิดอาการแพ้ให้เกิดผลข้างเคียงเลย แต่อย่างไรขอเพียงให้แมวทานอาหารที่เราจัดให้ ซึ่งอาหารแมวที่มีอยู่ในท้องตลาด เราแบ่งอาหารลดอาการแพ้ออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบ Novel protein และแบบ Hydrolysed protein พบว่าแบบ Novel protein จะมีข้อดีที่ไม่มีผลต่อระบบภูมิต้านทาน แต่แมวมักไม่ค่อยชอบทาน และเม็ดมักมีขนาดใหญ่กว่า แต่อาหารที่เป็นพวก Hydrolysed protein แมวจะชอบทานมากกว่า แต่อาจเกิดผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อทานต่อเนื่องนาน ๆ
เชื่อว่าอย่างน้อยคงพอเป็นข้อแนะนำเบื้องต้นให้ผู้เลี้ยงแมว ได้ตระหนักความสำคัญในการเลือกใช้อาหารได้มากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://pet.kapook.com/view21468.html
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/747597606914167609/
No comments:
Post a Comment