ไขข้อสงสัยเรื่อง หมัดแมว แวมไพร์จิ๋วในร่างปรสิต ที่อาศัยอยู่บนตัวเหมียว อันตรายกับคนไหม และจะกำจัดอย่างไรดี วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันแล้วค่ะ
แมวถือเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของใครหลายคน เพราะมีหน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู บวกกับนิสัยมุ้งมิ้ง ขี้อ้อน จึงทำให้คนส่วนใหญ่หลงรักได้ไม่ยาก อ๊ะ ๆ ๆ แต่ก็ใช่ว่าสัตว์เลี้ยงชนิดนี้จะมีแต่ความดีงามอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหากไม่ระวังหรือหาทางป้องกันไว้ก่อนก็อาจโดนเจ้าปรสิตที่ชื่อว่า "หมัดแมว" โจมตีทั้งเหมียวและเจ้าของได้ แต่มีอันตรายมาก-น้อยแค่ไหน มีวิธีกำจัดและป้องกันหมัดอย่างไรนั้น ตามไปดูกันเลยค่ะ
ลักษณะของหมัดแมวเป็นอย่างไร ?
หมัดแมว (Cat Flea หรือ Ctenocephalides) ถือเป็นปรสิตชนิดหนึ่ง มีวงจรชีวิตแบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ลักษณะมีสีน้ำตาลเข้ม ลำตัวแบนและแข็ง มีขา 4 คู่ ความยาวประมาณ 1.5-3.3 มิลลิเมตร กระโดดได้ไกล เคลื่อนที่เร็ว และดำรงชีวิตด้วยการกินเลือดเป็นอาหาร อาจมีชีวิตอยู่ได้นาน 2 เดือน ถึง 1 ปี
หมัดแมว กัดคนไหม อันตรายแค่ไหน ?
ไม่ว่าที่บ้านจะเลี้ยงสัตว์หรือไม่ได้เลี้ยง แต่ก็มีโอกาสที่จะโดนหมัดแมวกัดได้ สำหรับคนสงสัยว่าถ้าที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง มีโอกาสที่หมัดแมวจะเข้าหูได้หรือเปล่า ? ก็ต้องบอกว่าอาจจะเป็นไปได้ แต่มีโอกาสน้อยมาก เพราะปกติหมัดแมวไม่ใช่แมลงที่อาศัยอยู่ตามร่างกายคน
นอกจากนี้ สัตวแพทย์หญิงรัตนพร ตั้งวังวิวัฒน์ จากกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบผลทางการแพทย์ ยังไม่เคยพบผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อในกระแสเลือดจากเห็บหมัดมาก่อน ยกเว้นในรายที่มีอาการแพ้รุนแรงมาก ก็มีโอกาสที่จะช็อก และเสียชีวิตจากการช็อกได้
หมัดแมวกัด มีอาการอย่างไร ?
หากโดนหมัดแมวกัดสามารถสังเกตได้จากอาการเบื้องต้นคือ มีตุ่มนูนแดงหรือตุ่มน้ำใส เป็นแนวยาวหรือกระจุกเป็นหย่อมรูปสามเหลี่ยม 3-4 ตุ่ม และมีจุดหมัดกัดตรงกลาง ส่วนใหญ่หมัดแมวจะกัดบริเวณแขน ขา และเอว สามารถหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คนที่แพ้บางรายอาจจะเกิดปฏิกิริยาทำให้เป็นลมพิษได้ โดยจะมีอาการเป็นตุ่มนูนแดงจำนวนมาก และมีอาการนานหลายสัปดาห์ ซึ่งการรักษานั้นมีหลายวิธี ได้แก่ รับประทานยาแก้แพ้ หรือทาบริเวณที่มีอาการคันด้วยยาสเตียรอยด์ รวมถึงการใช้สมุนไพรอย่าง เสลดพังพอน ช่วยบรรเทาอาการ
วิธีกำจัดและป้องกันหมัดแมว
การกำจัดหมัดแมวสามารถทำได้หลายวิธี แต่ไม่สามารถฆ่าหมัดได้ด้วยการใช้นิ้วบีบ หากจะให้ดีควรใช้ยาหยอดหรือพ่นสารเคมีกำจัดแมลงภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ พร้อมกับการอาบน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำยากำจัดหมัดแมว นอกจากนี้หมั่นดูแลและทำความสะอาดภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้สเปรย์ฆ่าแมลงฉีดพ่นตามเฟอร์นิเจอร์ และใช้เครื่องดูดฝุ่นเน้นทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์ชอบนอน ฝาผนัง รวมถึงตามซอกมุมต่าง ๆ เช่น ขอบบัวหรือขอบคิ้ว
เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหมัดแมวกันไปแล้ว ฉะนั้นต่อไปนี้อย่าลืมดูแลรักษาแมวให้ดี อีกทั้งต้องคอยควบคุมและป้องกันหมัดแมวอยู่เสมอด้วย จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีหมัดแมวมากัดเราหรือเปล่านั่นเอง อ้อ ส่วนใครที่อยากกำจัดหมัดแมวแบบธรรมชาติ แต่มีประสิทธิภาพ ตามไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ
No comments:
Post a Comment