Wednesday, February 22, 2023

7 วิธีกำจัดกลิ่นอึแมวในบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม !


รวมวิธีกำจัดกลิ่นอึแมวเหม็นกวนจมูก แบบไม่เป็นอันตรายต่อแมวและคน ปรับเปลี่ยนบรรยากาศรอบบ้านให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม


ปัญหากลิ่นอึแมวเรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับชาติสำหรับใครหลาย ๆ คน แม้กระทั่งบ้านที่เลี้ยงแมวหรือบ้านที่มีแมวจรจัดเข้ามาอาศัยอยู่ เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้กลิ่นเหล่านี้ก็จะทำลายบรรยากาศในบ้าน และหากสูดดมบ่อยก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำวิธีกำจัดกลิ่นอึแมวมาฝากกันค่ะ รับรองได้เลยว่าแต่ละวิธีที่เรานำมานั้น ไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายหรือรุนแรงกับแมวแน่นอน เอาเป็นว่าแล้วจะมีวิธีไหนบ้างนั้นต้องไปดูค่ะ


1. น้ำยากำจัดกลิ่นทำเอง


สูตรนี้เหมาะสำหรับกำจัดกลิ่นฉี่แมวในบ้าน โดยเริ่มจากผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่า ๆ กันเทใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดไปตรงจุดที่แมวฉี่ไว้ ซับออกด้วยทิชชู ทำซ้ำอย่างนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง แล้วใช้ไดร์เป่าให้แห้ง ต่อมานำเบกกิ้งโซดาโรยกลบรอยฉี่แมวให้ทั่ว แล้วผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ¼ ถ้วยตวงกับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชาให้เข้ากัน เทใส่ขวดสเปรย์เพื่อฉีดพ่นลงบนเบกกิ้งโซดาที่โรยไว้ ใช้แปรงขัดเบา ๆ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วปิดท้ายด้วยใช้เครื่องดูดฝุ่นกำจัดเศษเบกกิ้งโซดาให้หมด


2. น้ำหมักชีวภาพหรือน้ำ EM


นอกจากน้ำหมักชีวภาพจะช่วยปรับสภาพดินเพื่อการเกษตรได้แล้ว น้ำหมักยังมีคุณสมบัติที่ช่วยกำจัดกลิ่นอึและฉี่แมวได้อีกด้วย แต่ก่อนอื่นเราต้องทำความสะอาดและเก็บสิ่งปฏิกูลให้เกลี้ยง จากนั้นนำน้ำหมัก (แบบไม่ผสมน้ำเปล่า) มาฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณนั้น ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แล้วล้างออกให้เกลี้ยง 


3. กากกาแฟโรยดับกลิ่น


หากที่บ้านพอจะมีกากกาแฟสดเหลืออยู่บ้าง หรือถ้าไม่มีก็ลองขอซื้อตามร้านกาแฟดูเลยค่ะ แล้วนำกากกาแฟมาผสมกับผิวเปลือกส้ม นำไปกลบไว้ในที่ที่แมวชอบมาฉี่หรืออึ ก็จะช่วยดับกลิ่นเหม็นได้ แถมยังมีกลิ่นที่ทำให้แมวไม่กลับมาอึที่เดิมด้วย


4. น้ำส้มสายชูผสมน้ำร้อน


เราสามารถเอาน้ำสายชูมาประยุกต์เป็นสูตรดับกลิ่นได้หลากหลาย เช่นเดียวกับสูตรนี้เลยค่ะ โดยการนำน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำร้อน (น้ำเดือด) ให้เข้ากันดี จากนั้นนำไปเทราดบริเวณที่แมวมาทิ้งบอมบ์ไว้ แต่ก่อนราดส่วนผสมอย่าลืมเก็บทำความสะอาดอึแมวให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เมื่อราดลงไปแล้ว น้ำส้มสายชูและน้ำร้อนจะช่วยทำความสะอาดไปพร้อม ๆ กับควันระเหยที่ช่วยดับกลิ่น


5. เบกกิ้งโซดาผสมน้ำฉีดไล่กลิ่น


หากใครไม่ชอบกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู แนะนำให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่า กะดูปริมาณให้เข้มข้นพอสมควร พอเข้ากันดีแล้วก็เทใส่ขวดสเปรย์ เพื่อนำไปฉีดพ่นบริเวณที่แมวเคยมาอึและฉี่บ่อย ๆ เพียงเท่านี้กลิ่นฉุนจากของเสียก็จะหายไป หรือจะโรยกลบของเสียไปก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ


6. ดินปลูกต้นไม้ดับกลิ่นได้ แถมปลูกต้นไม้ต่อได้เลย


ถ้าวิธีอื่นไม่ได้ผล ลองกำจัดด้วยแบบธรรมชาติดูสิคะ ให้หาดินทรายที่เอาไว้ปลูกต้นไม้มาโรยกลบอึแมวให้ทั่ว กลิ่นก็จะหายไป แต่ถ้าไม่อยากให้แมวเข้ามาอึที่เดิม ๆ อีก ให้นำดินมาลงเยอะหน่อย แล้วหาต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมมาปลูกไว้ตรงนั้นไปเลยค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นและป้องกันไม่ให้แมวมาอึซ้ำได้แล้ว เรายังได้สวนสวย ๆ เพิ่มอีกต่างหาก


7. ลูกเหม็นดับกลิ่นเหม็น ๆ จากอึแมว


แม้จะชื่อว่า "ลูกเหม็น" แต่คุณสมบัติมันกลับโดดเด่นเหนือชื่อเลยค่ะ เพียงแค่นำลูกเหม็นมาบดให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน นำไปราดบริเวณที่แมวชอบมาอึทิ้งไว้ เพียงเท่านี้กลิ่นเหม็น ๆ กวนจมูกก็จะหายไป แถมยังไล่ไม่ให้แมวเข้ามาอึได้อีกต่างหาก แต่ต้องระวังอย่าผสมให้กลิ่นลูกเหม็นฉุนแรงจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เราหายใจไม่สะดวกเอาได้


หวังว่าแต่ละวิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ คงจะไม่มีขั้นตอนไหนที่หายากเกินความสามารถแน่นอน ฉะนั้นถ้าคุณกำลังพบเจอปัญหากลิ่นเหม็นจากอึแมวอยู่ละก็ ลองนำวิธิดับกลิ่นเหล่านี้ไปลองใช้ดูนะคะ และที่สำคัญห้ามใช้วิธีรุนแรงเด็ดขาด เพราะจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bangkokshow, Coffeeindy และ tommysong25

https://home.kapook.com/view172654.html

cr. pic.

https://www.pinterest.com/pin/747597606879469697/


Wednesday, February 8, 2023

ขนมแมว ยี่ห้อไหนดี ? ตัวช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับทาส

 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ชวนเจ้าทาสมาทำความรู้จักขนมแมวแบบเจาะลึก ประโยชน์ วิธีการเลือก และข้อควรระวัง พร้อมรีวิวขนมแมวจากแบรนด์ยอดฮิต บอกเลยว่าควรมีติดบ้านไว้ สบายใจทั้งแมวและคนเลี้ยง


สมัยนี้มองไปทางไหนก็เห็นแต่แมวเต็มไปหมด เพราะความน่ารักน่าชัง ขี้อ้อน และมีเสน่ห์ของเจ้าสัตว์เลี้ยงขนปุยเลยทำให้หลายคนยอมตกเป็นทาส ยอมศิโรราบให้เจ้านาย 4 ขาตัวนี้กันมานักต่อนัก อาหารแมวอะไรที่ว่าดีมีประโยชน์เป็นต้องหาซื้อมาให้ แต่เจ้าเหมียวตัวแสบกลับเบื่ออาหาร ไม่ยอมกินซะนี่ แต่ทาสไม่ต้องกระวนกระวายใจไป เพียงหาขนมแมวมาติดบ้านไว้สักหน่อย เพราะขนมแมว หรืออาหารว่างแมว มีกลิ่นหอมและรสชาติที่ถูกปากเจ้าเหมียวของเรา จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้นด้วย

แต่ก่อนจะไปซื้อขนมแมวมาให้นายท่าน มาดูกันก่อนค่ะว่า ขนมแมวมีกี่ประเภท มีประโยชน์มากน้อยขนาดไหน ควรเลือกอย่างไร ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง และเราก็มีตัวอย่างขนมแมวมาแนะนำอีกด้วยค่ะ

ขนมแมวมีกี่ประเภท


1. ขนมแมวเลีย หรือขนมแมวแบบเนื้อครีม

           เป็นเนื้อครีมนิ่ม เพราะมีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้กินง่าย มีกลิ่นหอมที่ดึงดูดและกระตุ้นความอยากอาหารของแมว เหมาะสำหรับแมวเด็ก แมวที่อายุมาก หรือแมวที่มีปัญหาดื่มน้ำน้อย

2. ขนมแมวแบบเม็ด

          เป็นเม็ดเนื้อแข็ง คล้ายอาหารของแมวปกติ แต่เติมกลิ่นและรสชาติให้ดูพิเศษมากขึ้น ข้อดีคือ สามารถควบคุมปริมาณที่จะให้ได้ง่าย พกพาสะดวก เหมาะสำหรับให้เป็นรางวัลเวลาที่แมวทำตัวดี

3. ขนมแมวแบบเปียก

           เป็นเนื้อสัตว์ที่แมวกินได้ทั้งชิ้น เช่น ไก่หรือปลา ปรุงรสเรียบร้อยแล้ว ช่วยกระตุ้นให้แมวกินอาหารมากขึ้น เหมาะสำหรับแมวที่มีปัญหาเรื่องฟัน กินอาหารแข็งไม่ได้ หรือแมวที่กินน้ำน้อย

4. ขนมแมวแบบอบแห้ง

       เหมาะสำหรับแมวที่ขาดสารอาหาร หรือเบื่ออาหาร ด้วยการนำเนื้อสัตว์ที่แมวกินได้ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา มาแปรรูปด้วยการอบแห้ง ซึ่งจะคงคุณค่าทางอาหารเอาไว้และไม่มีสารปนเปื้อนด้วย แต่ราคาแพง

5. ขนมแมวแบบแท่ง

           เป็นแท่งเหนียว เหมาะสำหรับการกินเล่นเป็นขนมและกัดเพื่อขัดฟัน ทำให้ฟันสะอาดและลมหายใจของแมวไม่มีกลิ่นเหม็น


ประโยชน์ของขนมแมว


นอกจากจะเป็นอาหารว่างแมวที่ช่วยสานสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้านายกับทาสแล้ว ขนมแมวยังมีประโยชน์อื่น ๆ ดังนี้

1. เพิ่มสารอาหารและวิตามิน

           ในขนมแมวจะมีสารอาหารและวิตามินบางอย่างที่ร่างกายของแมวต้องการ เช่น ไบโอติน ช่วยบำรุงขน ลดการหลุดร่วงของเส้นขน ทอรีน ช่วยบำรุงสายตา อินนูลิน ช่วยให้ระบบย่อยและระบบดูดซึมของลำไส้ทำงานดีขึ้น เป็นต้น

2. ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร

           เพราะกลิ่นและรสชาติที่เติมลงไปในขนมแมว จะช่วยดึงดูดและกระตุ้นให้แมวเกิดความอยากอาหารและทำให้แมวกินอาหารได้มากขึ้นด้วย

3. ฝึกนิสัย

           ใครว่าแมวฝึกยาก จริง ๆ แล้วสามารถฝึกได้เหมือนหมา แต่อาจจะต้องใช้ความอดทนและตัวช่วยมากหน่อย ซึ่งขนมแมวก็เป็นตัวช่วยสำคัญเลย เพราะกลิ่นและรสชาติจะช่วยดึงความสนใจและทำให้แมวมีสมาธิและฟังคำสั่งได้ดีขึ้น


วิธีเลือกขนมแมวที่ดีและมีประโยชน์


เลือกขนมแมวแบบไหนที่ถูกปากเจ้านาย และสบายกระเป๋าทาส มาดูกันค่ะ

1. เลือกกลิ่นและรสชาติที่แมวชอบ

           เพราะกลิ่นและรสชาติที่ปรุงแต่งเข้ามาในขนมแมวจะดึงดูดและกระตุ้นให้แมวอยากกินอาหารมากขึ้น ซึ่งครั้งแรก ๆ อาจจะต้องลองผิดลองถูกกันหน่อย แต่ไม่ว่าจะรสชาติไหน เจ้านายก็เป็นอันต้องสยบให้กับขนมแมวทุกครั้งไป

2. เลือกจากส่วนผสมของขนมแมว

       ควรเลือกขนมแมวที่ไม่มีสารอันตราย ทั้งสารกันบูด หรือใส่สีย้อมที่เป็นอันตราย และเลือกส่วนผสมที่มีสารอาหารครบถ้วนแก่สุขภาพของแมว ไม่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาล และไขมัน ที่มากเกินความต้องการ นอกจากนี้ต้องคำนวณปริมาณแคลอรีที่แมวจะได้รับต่อวันด้วย ในฉลากอาหารสัตว์เลี้ยงจะระบุถึงส่วนผสม วันที่ผลิต วันหมดอายุ และปริมาณแคลอรีของขนมแมวแต่ละชนิด ซึ่งควรพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน

3. เลือกโดยการดูจากสุขภาพของแมวเป็นหลัก

       ขนมแมวจะมีการใส่สารเพื่อช่วยทำให้แมวมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดโรค รวมถึงช่วยแก้ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่ดีต่าง ๆ ของแมวด้วย จึงควรเลือกขนมให้เหมาะกับสุขภาพของแมว เช่น

  • แมวที่ไม่ค่อยชอบกินน้ำ ควรเลือกขนมแมวเลียแบบเนื้อครีมเพราะมีน้ำเป็นส่วนผสม  

  • แมวพันธุ์ขนยาว ควรเลือกสูตรที่มีใยอาหารสูงหรือดูแลจัดการก้อนขนเป็นพิเศษ

  • แมวที่อายุมากหรือมีปัญหาเรื่องไต เลือกที่ไม่เค็มจัด สูตรโลว์โซเดียม  

  • แมวที่มีปัญหาแพ้อาหาร ควรเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของอาหารที่แมวแพ้

4. เลือกแบรนด์ที่มีฉลากอาหารสัตว์เลี้ยงมาตรฐาน

           ฉลากอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นเอกสารหรือเครื่องหมายยืนยันว่าอาหารชนิดนี้มีโภชนาการเป็นประโยชน์และเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งควบคุมโดย Association of American Feed Control Officials (AAFCO) ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานทางโภชนาการสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยง ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อมั่นใจได้ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพของแมวจริง ๆ


ข้อควรระวังในการให้ขนมแมว


1. ไม่ควรให้ขนมแมวมากกว่าอาหารหลัก

           ถึงแม้ขนมแมวจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์และรสชาติที่ถูกปากแมวมากแค่ไหน ก็ควรให้เพื่อเป็นรางวัลเวลาที่แมวทำตัวน่ารักหรือเชื่อฟังคำสั่งเท่านั้น อาจจะให้เพียง 10% ของพลังงานทั้งหมดที่แมวต้องการใน 1 วัน ส่วนอีก 90% ที่เหลือ ควรให้แมวกินอาหารหลักไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกที่มีสารอาหารครบถ้วนและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า

2. ไม่ให้เยอะและบ่อยเกินไป

       แมวที่ได้กินขนมแมวในปริมาณมากหรือบ่อยเกินไป จะทำให้เบื่ออาหารหลักหรือเสียนิสัยได้ ควรให้ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์กำลังดี

3. แมวเด็กยังไม่ควรกินขนมแมว

           เพราะระบบย่อยอาหารของลูกแมว หรือแมวเด็ก ยังทำงานได้ไม่เต็มที่นัก และร่างกายยังดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่ หรือแมวที่มีอายุมากแล้วก็ควรให้ขนมแมวที่กินง่ายและไม่เค็มเพื่อลดปัญหาโรคไตที่จะตามมา

4. เก็บรักษาอาหารแมวให้ถูกต้องเสมอ

           อาหารแมวแต่ละชนิดเมื่อเปิดแล้วควรเก็บรักษาให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อแมว เช่น ขนมแมวเลียแบบซอง ควรป้อนแมวให้หมดภายในครั้งเดียว ไม่ควรเหลือแล้วนำมาเก็บ เพราะคุณภาพและสารอาหารจะลดลง ขนมแมวแบบเปียกหรือแบบนิ่ม ควรเก็บไว้ในตู้เย็น และขนมแมวแบบแห้ง แบบเม็ด หรือแบบแท่ง ควรเก็บไว้ในห้องที่ไม่ร้อนจนเกินไป


แนะนำ 10 ขนมแมวยอดฮิต

เป็น Favourite ของเจ้าเหมียว


1. ขนมแมวเลีย Me-O Creamy Treats มีโอ ครีมมี่ ทรีต


ขนมแมวเลียชนิดครีม ทำจากวัตถุดิบคุณภาพสูง เสริมวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น โพรไบโอติกส์ ดูแลระบบทางเดินอาหาร ทอรีน ช่วยบำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน และมีโอเมก้า สังกะสี และ DL-Methionine ช่วยบำรุงผิวหนังและขน 

  • เหมาะกับแมวอายุ 1 เดือนขึ้นไป 

  • น้ำหนักซองละ 15 กรัม 

  • ราคา 55 บาท (4 ซอง)

  • มี 11 รสชาติ ได้แก่ รสปู, รสแซลมอน, รสไก่และตับ, รสโบนิโตะ, รสไก่-ฟักทอง, รสปลาทูน่า-นมแพะ, รสทูน่า-มะเขือเทศ, รสไก่-ตับผสมนมแพะ, รสปลาทูน่าและหอยเชลล์, รสคัตสึโอะ และรสมากุโระ


2. ขนมแมวเลีย CIAO-Churu เชาชุรุ เนื้อปลาทูน่าคัตสึโอะ


ขนมแมวเลียนำเข้าจากญี่ปุ่น ผลิตจากเนื้อปลาทูน่าแท้ ๆ เสริมด้วยวิตามินอี และแร่ธาตุต่าง ๆ จุดเด่นที่สำคัญของแบรนด์นี้คือ มีสารสกัดจากชาเชียว ที่ช่วยทำให้สุขภาพแมวแข็งแรงและช่วยลดปัญหากลิ่นปัสสาวะฉุน สามารถให้เป็นรางวัลหรือผสมอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยถูกปาก 

  • เหมาะกับแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป 

  • น้ำหนักซองละ 14 กรัม 

  • ราคา 65 บาท (4 ซอง)


3. ขนมแมวเลีย Toro Toro โทโร โทโร่


ขนมแมวเลียผลิตจากปลาทูน่าแท้และมีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพของแมว เช่น ดีเอชเอ วิตามิน และทอรีน ใช้ผสมกับอาหารหลักช่วยแก้ปัญหาแมวเบื่ออาหารได้ 

  • เหมาะกับแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป

  • น้ำหนัก 15 กรัมต่อซอง 

  • 1 ห่อ มี 25 ซอง ราคา 229 บาท 

  • มี 3 รสชาติ ได้แก่ รสทูน่าและปลาแซลมอน, รสปลาทูน่าผสมไฟเบอร์ และรสทูน่าผสมนมแพะ


4. ขนมแมวแบบเม็ด Me-O ทรีตแมวมีโอ


ขนมแมวแบบเม็ด ทำจากกุ้งแท้ บรรจุแบบซองมีซิปล็อก เก็บง่าย ใช้สะดวก

  • เหมาะกับแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป 

  • น้ำหนัก 50 กรัม 

  • ราคา 15 บาท 

  • มี 3 รสชาติ ได้แก่ รสกุ้ง รสทูน่า-ไก่-ไข่ และรสแซลมอน


5. ขนมแมวแบบเม็ด Whiskas Temptations วิสกัส เทมเทชันส์


ขนมแมวแบบเม็ดเนื้อนุ่มเหนียว ทำจากเนื้อไก่แท้และอาหารทะเลประเภทต่าง ๆ แต่งกลิ่นแซลมอนช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ด้วยมาตรฐานคุณภาพและกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน

  • เหมาะกับแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป 

  • น้ำหนัก 35 กรัม

  • ราคา 25 บาท 

  • มี 5 รสชาติ ได้แก่ รสแซลมอน, รสกัวร์เม่, รสทูน่า, รสซีฟู้ด และรสไก่


6. ขนมแมวแบบเม็ด Jerhigh Jinny Cat Stick


ขนมแมวแบบเม็ดเนื้อนุ่มเหนียว ทำจากเนื้อไก่แท้และอาหารทะเลประเภทต่าง ๆ แต่งกลิ่นแซลมอนช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ด้วยมาตรฐานคุณภาพและกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน

  • เหมาะกับแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป 

  • น้ำหนัก 35 กรัม

  • ราคา 25 บาท 

  • มี 5 รสชาติ ได้แก่ รสแซลมอน, รสกัวร์เม่, รสทูน่า, รสซีฟู้ด และรสไก่


7. Friskies Party Mix Cat Treats Crunch


ขนมแมวแบบเม็ด รสชาติอร่อย มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขน

  • เหมาะกับแมวอายุ 4 เดือนขึ้นไป

  • น้ำหนัก 60 กรัม

  • ราคา 33 บาท 

  • มี 5 รสชาติ ได้แก่  สูตรคลาคสิก รสปลาทูน่า ไก่ และปลาโบนิโตะ, สูตรชีสซี่เครซ รสเชดดาร์ กัวร์ด้าร์และอีแดมชีส, สูตรมิกซ์กริลล์ รสไก่ เนื้อ และแซลมอน, สูตรบีชไซด์ รสปลาทูน่า แซลมอนและสแนปเปอร์ และสูตรปิกนิก รสไก่ ไก่งวงและชีส


8. Toro Toro โทโร โทโร่ ปลาทูน่าชิ้น


ขนมแมวแบบชิ้น ผลิตจากเนื้อปลาทูน่ามากุโระชั้นดี ผ่านการผลิตอย่างพิถีพิถันเพื่อคงความสดของรสชาติ และกลิ่นหอมยั่วยวนให้อยากอาหาร อุดมไปด้วยคุณค่าทางโปรตีนอย่างครบถ้วน 

  • เหมาะกับแมวอายุ 2-3 เดือนขึ้นไป

  • น้ำหนัก 30 กรัม 

  • ราคา 20 บาท 

  • มี 8 รสชาติ ได้แก่ รสไก่ย่าง Original, รสไก่ย่าง-คัตสึโอะบูชิ, รสไก่ย่าง-คอลลาเจน, รสไก่ย่าง-ซุปแซลมอน, รสทูน่า Original, รสทูน่า-คัตสึโอะบูชิ, รสทูน่า-คอลลาเจน และรสทูน่า-ซุปหอยเชลล์


9. Inaba Soft Bits


ขนมแมวแบบชิ้นนิ่ม แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น ผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ อุดมไปด้วยประโยชน์ สารอาหารครบถ้วน ไม่ใช้วัตถุกันเสีย อีกทั้งมีสารสกัดจากชาเขียว ช่วยลดปัญหากลิ่นปัสสาวะฉุนได้ 

  • เหมาะกับแมวอายุ 4 เดือนขึ้นไป 

  • น้ำหนัก 25 กรัม

  • ราคา 112 บาท 

  • มี 6 รสชาติ ได้แก่ ซองสีเหลือง รสปลาทูน่า สันในไก่ ปลาโอแห้ง หอยเชลล์ และปลาหมึก, ซองสีเขียวเข้ม รสปลาทูน่า สันในไก่ และหอยเชลล์, ซองสีม่วง รสปลาทูน่า สันในไก่ ปลาโออบแห้ง น้ำซุบไก่ และรสปลาหมึก, ซองสีส้ม รสปลาทูน่า สันในไก่ และปลาโอแห้ง, ซองสีเขียวอ่อน รสปลาทูน่า สันในไก่ ปลาโอแห้ง และหอยเชลล์ และซองสีน้ำเงิน สันในไก่ผสมปลาโอแห้ง รสซีฟู้ดและปู


10. Snackie Cat Treats


 ขนมแมวแบบแท่งเนื้อนิ่ม อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะสำหรับให้เป็นอาหารว่างหรือรางวัล บรรจุซองแบบซิปล็อก พกพาและเก็บรักษาสะดวก 

  • เหมาะกับแมวอายุ 6 เดือนขึ้นไป 

  • 1 ซอง 70 กรัม ราคา 50 บาท 

  • มี 3 รสชาติ ได้แก่ รสทูน่า, รสตับ และรสแซลมอน

อ่านถึงตรงนี้แล้วมัวชักช้า ไม่รีบมาซื้อเอาใจเจ้านายอีก เดี๋ยวก็โดนสุดยอดวิชาพันเล็บข่วนไร้ปรานีหรอก แต่อย่าลืมนะคะว่าควรให้ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ควรให้ขนมแมวเพียงอย่างเดียว ควรให้เจ้าเหมียวได้กินอาหารหลักอย่างครบถ้วน เพื่อสุขภาพที่ดี แข็งแรง จะได้อยู่น่ารักกับเราไปนาน ๆ ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

perfectcompanion.com

inaba-foods.co.th

tops.co.th

tops.co.th

jerhigh.com

Nestle Official

เฟซบุ๊ก Toro Thailand

Central.co.th

https://pet.kapook.com/view239649.html